แผ่นพลาสติกลูกฟูกผลิตจากพลาสติกประเภทไหน? PP กับ PE ต่างกันอย่างไร?

แผ่นพลาสติกลูกฟูก หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ ฟิวเจอร์บอร์ด เป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมอย่างมากในภาคอุตสาหกรรมและการขนส่ง เนื่องจากมีน้ำหนักเบา แข็งแรง ทนทานต่อสภาพแวดล้อม และสามารถใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการทำบรรจุภัณฑ์ กล่องสินค้า หรืองานตกแต่งทั่วไป แต่มักเกิดความสงสัยว่าแผ่นพลาสติกลูกฟูกผลิตจากพลาสติกประเภทไหน แล้วพลาสติกแต่ละประเภทแตกต่างอย่างไร RMC Group มีคำตอบให้

แผ่นพลาสติกลูกฟูก คืออะไร?

แผ่นพลาสติกลูกฟูก (Plastic Corrugated Sheet) คือแผ่นพลาสติกที่ถูกออกแบบให้มีโครงสร้างเป็นชั้น ๆ ประกบกัน โดยแกนกลางมีโครงสร้างคล้ายกระดาษลูกฟูก ทำให้มีความแข็งแรง ทนทานต่อแรงกระแทกได้ดีแม้จะมีน้ำหนักเบา จุดเด่นนี้ทำให้แผ่นพลาสติกลูกฟูกถูกนำมาใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม แผ่นพลาสติกลูกฟูกยังสามารถตัด เจาะ หรือพับขึ้นรูปได้ตามต้องการ ซึ่งช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งาน และที่สำคัญคือสามารถรีไซเคิลได้ จึงตอบโจทย์ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อมและต้นทุน

พลาสติกประเภทไหนที่ใช้ผลิตแผ่นพลาสติกลูกฟูก?

โดยทั่วไปแล้ว แผ่นพลาสติกลูกฟูกจะผลิตจากพลาสติกประเภทโพลีโพรพิลีน (Polypropylene หรือ PP) เป็นหลัก เนื่องจาก PP มีคุณสมบัติเหมาะสมกับการนำมาขึ้นรูปเป็นแผ่นลูกฟูก ทั้งในเรื่องของความแข็งแรง ความยืดหยุ่น ความทนทานต่อสารเคมี และทนต่ออุณหภูมิในระดับที่หลากหลาย นอกจากนี้ PP ยังมีน้ำหนักเบา และไม่ดูดซึมน้ำ จึงเหมาะกับการใช้งานในที่ที่มีความชื้นหรือในกระบวนการโลจิสติกส์ที่ต้องเจอสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย

แม้ในบางครั้งอาจมีการใช้พลาสติกประเภท โพลีเอทิลีน (Polyethylene หรือ PE) ในการผลิตแผ่นพลาสติกลูกฟูกบ้าง แต่จะพบได้น้อยกว่า เนื่องจากคุณสมบัติของ PE ไม่ตอบโจทย์ในด้านความแข็งแรง และการขึ้นรูปเท่า PP โดยเฉพาะเมื่อจำเป็นต้องใช้แผ่นพลาสติกลูกฟูกในรูปแบบที่ต้องการความคงทนสูงหรือรองรับน้ำหนักมาก

เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง PP และ PE

1.ความแข็งแรงและความทนทาน

• PP มีความแข็งแรงและทนแรงกระแทกสูง สามารถรับน้ำหนักได้ดี ไม่เปราะง่าย ทนต่อแรงบิดและแรงดึง จึงเหมาะกับการนำมาผลิตแผ่นพลาสติกลูกฟูกที่ต้องการใช้งานในภาคอุตสาหกรรม
• PE มีความยืดหยุ่นมากกว่าแต่เปราะง่ายกว่าในบางกรณี โดยเฉพาะ LDPE (Low-Density Polyethylene) ซึ่งแม้จะมีความนิ่มแต่ก็ไม่แข็งแรงเท่า PP

2. น้ำหนัก

• PP มีน้ำหนักเบากว่า PE ซึ่งเป็นจุดเด่นในการใช้งานที่ต้องการลดภาระในการขนส่งหรือเคลื่อนย้าย

3. ทนความร้อน

• PP ทนความร้อนได้ดีกว่า สามารถใช้งานในอุณหภูมิที่สูงถึงประมาณ 120130 องศาเซลเซียส
• PE ทนความร้อนได้ต่ำกว่า โดย LDPE ทนได้ประมาณ  80 องศาเซลเซียส ขณะที่ HDPE อาจทนได้มากกว่าแต่ยังน้อยกว่า PP 

4. ทนสารเคมี

• ทั้ง PP และ PE ต่างก็ทนต่อสารเคมีได้ดี แต่ PP มีความได้เปรียบกว่าเล็กน้อยในบางกรณี โดยเฉพาะในสภาวะแวดล้อมที่มีความเป็นกรดหรือด่างสูง

5. ความโปร่งแสงและความสวยงามของผิว

• PP ผิวออกด้านเล็กน้อย มองไม่ค่อยโปร่งแสง แต่พิมพ์สีหรือเคลือบผิวได้ดี เหมาะกับงานป้ายหรือการพิมพ์โลโก้บนแผ่นพลาสติกลูกฟูก
• PE โดยเฉพาะ LDPE จะมีลักษณะโปร่งแสงมากกว่า และให้ผิวสัมผัสที่นิ่มกว่า
  

6. การใช้งานทั่วไป

• PP มักใช้ในผลิตภัณฑ์ที่ต้องการความแข็งแรง เช่น แผ่นลูกฟูกพลาสติก, กล่องพลาสติก, บรรจุภัณฑ์อุตสาหกรรม
• PE มักใช้ทำถุงพลาสติก ขวดน้ำ ภาชนะ หรือท่อประปา
  

ทำไมแผ่นพลาสติกลูกฟูกจึงนิยมผลิตจาก PP?

คุณสมบัติต่าง ๆ ของ PP ตอบโจทย์การใช้งานของแผ่นพลาสติกลูกฟูกมากกว่า เพราะนอกจากจะแข็งแรงและทนทานแล้ว ยังสามารถรีไซเคิลได้ง่าย สามารถนำไปพิมพ์สี ทำโลโก้ หรือดัดแปลงรูปร่างได้หลากหลาย ทำให้การนำไปใช้งานในเชิงธุรกิจทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การทำกล่องพับเก็บได้ ป้ายประชาสัมพันธ์ แผ่นรองสินค้า หรือใช้เป็นวัสดุตกแต่งบูธแสดงสินค้า นอกจากนี้ แผ่นพลาสติกลูกฟูกที่ผลิตจาก PP ยังมีราคาที่ไม่สูงมากเมื่อเทียบกับวัสดุอื่นในตลาด และมีอายุการใช้งานยาวนาน จึงช่วยลดต้นทุนในการเปลี่ยนวัสดุหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ในระยะยาวได้อย่างมาก

ข้อควรรู้ก่อนเลือกแผ่นพลาสติกลูกฟูก

1. ตรวจสอบความหนาและขนาด
ความหนาของแผ่นพลาสติกลูกฟูกมีตั้งแต่ 2 มม. ถึง 5 มม. เลือกให้เหมาะกับน้ำหนักและการใช้งาน เช่น กล่องใส่ของหรือแผ่นรองพื้น

2. เลือกชนิดของพลาสติกให้เหมาะกับสภาพแวดล้อม
หากต้องการใช้งานในพื้นที่ร้อนหรือโดนแสงแดดบ่อย ควรเลือก PP เกรดที่มีสารกัน UV

3. พิจารณาเรื่องการพิมพ์หรือติดป้าย
หากเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับการโฆษณา แนะนำให้ใช้แผ่นพลาสติกลูกฟูกที่ผลิตจาก PP เพราะพิมพ์ได้คมชัด ติดสีดี

4. เลือกจากผู้ผลิตที่เชื่อถือได้
เพื่อให้ได้แผ่นพลาสติกลูกฟูกที่มีคุณภาพและมาตรฐานสม่ำเสมอ ควรเลือกจากผู้ผลิตหรือจำหน่ายที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรม

แผ่นพลาสติกลูกฟูก ถือเป็นวัสดุสารพัดประโยชน์ที่ตอบโจทย์ทั้งในด้านการใช้งานเชิงอุตสาหกรรมและเชิงพาณิชย์ ด้วยโครงสร้างลูกฟูกที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรง แต่ก็ยังมีน้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายสะดวก ใช้งานง่าย 

แม้ว่าจะมีพลาสติกหลายชนิดที่สามารถนำมาใช้ผลิตแผ่นพลาสติกลูกฟูกได้ แต่พลาสติกที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ Polypropylene (PP) เนื่องจากมีคุณสมบัติเหมาะสมทั้งด้านความแข็งแรง ความทนทาน ความยืดหยุ่น และความสามารถในการปรับแต่งได้หลากหลาย ส่วนพลาสติกประเภท PE ก็มีข้อดีในด้านความยืดหยุ่นและการใช้งานทั่วไป แต่ยังไม่เหมาะกับการใช้งานที่ต้องการความแข็งแรงเป็นหลัก

หากคุณกำลังมองหา แผ่นลูกฟูกพลาสติก พีพีบอร์ด ฟิวเจอร์บอร์ด เราขอแนะนำ RMC GROUP ผู้ผลิตและจำหน่ายแผ่นพลาสติกลูกฟูกคุณภาพสูง ผลิตจากเม็ดพลาสติกเกรดพรีเมียมด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่มีคุณภาพ ภายในโรงงานที่ได้รับมาตรฐานสากล พร้อมประสบการณ์ยาวนานกว่า 32 ปี และความไว้วางใจจากลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ขอใบเสนอราคา : www.rmc.co.th/ขอใบเสนอราคา-ฟิวเจอร์บอร์ด

สอบถามเเละสั่งซื้อสินค้าได้ที่ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

สามารถติดต่อ RMC GROUP ผ่านช่องทางต่างๆ ดังนี้

Call Center : 034 813 972 80

ติดต่อฝ่ายขาย : 061 980 7350

Email : info@rmc.co.th

LINE ID : @rmcgroup